ต้มยำกุ้งน้ำข้น สุดอร่อย

Aug 18

   เชื่อได้ว่าเกือบจะทุกคน จะต้องเคยลองชิมต้มยำกันมาบ้างแล้ว ซึ่งต้มยำ เป็นการเป็นการปรุงอาหารของเมืองไทย จะเป็นประเภทน้ำแกง และจะขาดเครื่องเทศไม่ได้เลยคือ ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด, พริกขี้หนู, น้ำมะนาว

   ต้มยำสามารถทำได้หลายชนิดมีทั้งต้มยำปลา, ต้มยำเห็ด, ต้มยำไก่, และต้มยำกุ้ง ในต่างประเทศนั่นก็มีร้านอาหารไทย ฝรั่งก็นิยมเข้าไปรับประทานกัน ซึ่งสำหรับ "ต้มยำกุ้ง" เป็นอาหารไทยที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งถูกใจในแง่ของความอร่อย และผสมสมุนไพรต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีกลิ่นหอม รสชาติถูกปาก ซึ่งส่วนผสมมีดังนี้


ส่วนผสม
- กุ้งแม่น้ำ 300 กรัม
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
- ข่าหั่นแว่น 3 แว่น- น้ำสต๊อก 5 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
- พริกขี้หนูสดบุบพอแตก 5 เม็ด (สามารถปรับลดความเผ็ดได้นะครับ)


วิธีทำ
1. ตั้งน้ำสต๊อกให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้
2. พอเดือดแล้ว ใส่กุ้ง เห็ดฟางใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำปลา
3. เดือดอีกครั้งยกลง ใส่น้ำมะนาว พริกขี้หนู
4. ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี



ข้อเสนอแนะในการทำ
1. ต้มยำกุ้งตำรับดั้งเดิมจะเป็นน้ำใส สำหรับท่านที่ต้องการทำให้เป็นต้มยำกุ้งน้ำข้น ให้เติมนมสดหรือน้ำกะทิก่อนยกลง เพื่อให้ได้น้ำต้มยำรสเข้มข้นและมีรสมันขึ้น หลังจากเติมนมสดหรือน้ำกะทิไปแล้วสามารถต้มต่อได้อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่าให้นานมากเพราะจะทำให้เกิดการแยกตัวกัน ดูไม่สวยงาม
2. สำหรับต้มยำน้ำข้นนิยมใส่น้ำพริกเผาหรือพริกขี้หนูแห้งทอด เพื่อให้มีสีสันสวยงาม
3. สามารถนำเปลือกกุ้ง หัวกุ้งมาต้มเป็นน้ำสต๊อกได้ โดยการต้มเปลือกกุ้งกับตระไคร้ ข่า ใบมะกรูด ประมาณ 15 นาที จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาใช้
4. ถ้ากุ้งมีขนาดเล็กให้ใส่เห็ดก่อนกุ้ง เพื่อคงความเด้งของกุ้งไว้ จะได้ไม่เหนียวหรือแข็งเวลาทาน
5. ควรรอให้น้ำเดือดก่อนใส่กุ้ง และอย่าคนเพราะจะทำให้คาว
6. การรีดมันกุ้งออกมาเคี่ยวต่างหากแล้วจึงใส่ในน้ำต้มยำจะทำให้มีกลิ่นคาว
7. การใส่รากผักชีทุบพอแตกในน้ำแกง จะทำให้ต้มยำมีกลิ่นหอมขึ้น
8. ถ้าชอบเผ็ดมาก ให้ใส่พริกขี้หนูก่อนปิดไฟสัก 5 นาที
9. ถ้าชอบรับประทานแบบก๋วยเตี๋ยว สามารถหาวุ้นเส้นนำมาใส่เพิ่ม เป็น "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง" ได้ ซึ่งจะได้รสชาติเส้นหมี่ไปอีกแบบหนึ่ง



0 comments:

Post a Comment